คำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของอลิอันซ์ อยุธยา (สำหรับลูกค้า)

บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) (“บริษัท“/“เรา”) ได้รับอนุญาตในการนําเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันวินาศภัยในประเทศไทย

การปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านมีความสําคัญต่อเรา คําชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะอธิบายให้ท่านทราบเกี่ยวกับการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและการจัดการข้อมูลดังกล่าว เช่น วิธีการและประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผย (“ประมวลผล”) วัตถุประสงค์ในการประมวลผล และใครที่เราจะเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลให้ รวมทั้งสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลของท่าน

คำนิยาม

  • ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง นิติบุคคลหรือบริษัท ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • กลุ่มอลิอันซ์ หมายถึง  Allianz SE บริษัทในเครือและบริษัทย่อยของ Allianz SE  ซึ่งรวมถึงกลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา
  • กลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา หมายถึง บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล และ บริษัท มายเฮลท์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด รวมทั้งบริษัทในเครือและบริษัทย่อยของ บมจ.  อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล

ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผล

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากท่านตามใบคำขอ แบบฟอร์ม หรือเอกสารอื่นใด เมื่อท่านขอรับบริการใดๆ ผ่านช่องทางต่างๆ จากบริษัทรวมถึงช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้า หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอื่นที่สามารถระบุตัวตน ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือที่อยู่ตามที่ท่านแจ้งไว้ เพศ หมายเลขโทรศัพท์ หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) วันเดือนปีเกิด ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน หรือสถานภาพทางการสมรส เป็นต้น

ข้อมูลทางการเงิน เช่น แหล่งที่มาของรายได้ เลขที่บัตรเครดิต/เดบิต หรือเลขที่บัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระค่าเบี้ยประกันภัย ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากร เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เช่น ตำแหน่งงาน สถานที่ทำงาน ประวัติการทำงาน ชื่อและที่อยู่ของนายจ้าง เป็นต้น

  • ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมาย เช่น สถานะเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง หรือกฎหมายล้มละลาย กฎหมายว่าด้วยการหลีกเลี่ยงภาษีของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) เป็นต้น
  • ข้อมูลการทำธุรกรรมเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย เช่น ประวัติการชำระเบี้ยประกันภัย การกู้ยืม การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การใช้สิทธิหรือบริการอื่นๆของเรา รวมถึงบันทึกการสนทนาเมื่อท่านติดต่อกับบริษัทในทุกช่องทาง เป็นต้น
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เช่น ข้อมูลการแพทย์และสุขภาพ หรือความพิการ เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ ข้อมูลพันธุกรรม ชีวภาพ หรือพฤติกรรมทางเพศ ข้อมูลความเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสหภาพแรงงาน  ข้อมูลการรักษาทางการแพทย์ ข้อมูลการเรียกร้องสินไหมทดแทน เป็นต้น
  • ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ให้บริการอื่นที่บริษัทได้รับจากกิจกรรมการท่องเว็บออนไลน์ หรือข้อมูลสำหรับสมัครใช้บริการ หรือใช้บริการบนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆของเรา เช่น My Allianz, Healthy Living หรือ My Health เป็นต้น
  • หมายเลขไอพี (IP Address) ประเภทของซอฟต์แวร์เบราว์เซอร์ (Browser) ที่ใช้ และวัน เวลา และระยะเวลาที่ท่านใช้งาน รวมถึงข้อมูลการใช้ เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเราซึ่งมีการบันทึกรายละเอียดข้อมูลดังกล่าวโดยอัตโนมัติ

ในกรณีที่ท่านมีความสนใจในผลิตภัณฑ์ประกันภัยหรือขอรับบริการของเรา บริษัทจำเป็นต้องขอให้ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือให้บริการ หรือพิจารณารับประกันภัย หรือปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย หรือดำเนินการตามคำร้องอื่นใดของท่านได้ หากท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านที่จำเป็น ครบถ้วน เพียงพอสำหรับการดำเนินการของบริษัท บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย หรือปฏิเสธที่จะดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท (เช่น สมาชิกในครอบครัวของผู้เอาประกันภัย ผู้ชำระเบี้ยประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ เป็นต้น) ท่านรับทราบและยืนยันว่าท่านมีอำนาจกระทำการในนามของบุคคลนั้นเพื่อยินยอมให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และได้ดำเนินการให้บุคคลนั้นรับทราบคำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว

เราได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร และใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอย่างไร

3.1   บริษัทได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดย:

  • บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง ตามใบคำขอเอาประกันภัยที่ท่านสมัครขอเอาประกันภัยไว้กับบริษัท หรือตามคำร้องต่างๆ ที่ท่านได้ยื่นไว้กับบริษัท หรือจากการติดต่อต่างๆของท่านในทุกช่องทางการติดต่อของบริษัท หรือจากการเข้าถึงเว็บไซต์หรือสมัครใช้หรือใช้บริการแอปพลิเคชันต่างๆของบริษัท เช่น My Allianz, Healthy Living หรือ My Health หรือการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาดหรือกิจกรรมเพื่อสังคมกับบริษัท
  • บริษัทยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ เช่น กลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา กลุ่มอลิอันซ์ พันธมิตรทางธุรกิจ ที่ปรึกษาทางการเงิน ตัวแทนประกันภัย หรือ นายหน้าประกันภัย ธนาคาร บริษัทประกันภัยอื่น แพทย์ที่ทำการรักษา สถานพยาบาล สมาคมวิชาชีพ เช่น สมาคมประกันวินาศภัย เป็นต้น หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายอื่นๆ นายจ้างหรือที่ปรึกษาทางการเงินของนายจ้าง ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการเชื่อมต่อกับบริษัท เป็นต้น
3.2 บริษัทจะประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

Swipe to view more

ฐานที่ใช้อ้างตามกฎหมาย

วัตถุประสงค์

การปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย หรือการดำเนินการตามคำขอของท่าน
  • เพื่อการให้คำแนะนำหรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การคำนวณเบี้ยประกันภัยหรือเสนอราคา การพิจารณารับประกันภัย และการจัดการในการบริหารกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน การประกันภัยต่อ รวมทั้ง การพิจารณาผลประโยชน์หรือค่าสินไหมทดแทนของท่านตามสัญญาประกันภัย และการให้บริการออนไลน์ของเราในปัจจุบันหรือในอนาคต รวมถึงการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน เช่น การเรียกเก็บเบี้ยประกันภัย หรือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด เงื่อนไข นโยบายของบริษัท เป็นต้น
  • การดำเนินการตรวจสอบการทำธุรกรรมเพื่อการดำเนินคดีหรือบังคับใช้สิทธิตามสัญญาประกันภัยหรือกฎหมาย

การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท หรือกฎหมายอื่นใด ของหน่วยงานที่มีอำนาจ

 

  • การตรวจสอบ การยืนยันตัวตนหรือสถานะของบุคคล ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กฏหมายที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูง กฎหมายล้มละลาย หรือกฎหมายว่าด้วยการหลีกเลี่ยงภาษีของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) กฏหมายเกี่ยวกับหลักทรัพย์หรือตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น บริษัทอาจปฏิเสธการให้บริการหากกฎหมายกำหนดไว้
  • เพื่อเปิดเผย หรือนำส่งข้อมูล เอกสาร หรือรายงานต่างๆตามที่กฎหมายกำหนดให้แก่หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจตามกฎหมาย
  • การปฏิบัติตามคำสั่ง หรือให้ความร่วมมือในการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายอื่นใด ที่ได้มีการร้องขอเป็นครั้งคราว หรือเพื่อให้เป็นไปตามการรายงานของทางราชการ หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (“สำนักงาน คปภ.”) เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน คปภ. ซึ่งสามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. (http://www.oic.or.th)
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • เพื่อการวิเคราะห์ และจัดทำสถิติ การสำรวจความพึงพอใจ การทำวิจัยทางการตลาด หรือการวิเคราะห์ข้อมูลหรือข้อมูลทางการเงิน การทำวิจัยเชิงคณิตศาสตร์ประกันภัย การกำหนดราคา รวมทั้งการพิจารณารับประกันของบริษัทและการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน หรือเพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการบริการ รวมถึงการวิเคราะห์การใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อการปรับปรุง หรือแก้ไขการใช้งานเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ให้เป็นไปตามลักษณะการใช้งานของท่าน
  • เพื่อการตรวจสอบ สืบสวนหรือป้องกัน หรือการตรวจสอบการทุจริต การฉ้อฉลหรือฉ้อโกง อาชญากรรมทางการเงิน หรือการจัดการเรื่องร้องเรียน เช่น การตรวจสอบการทำธุรกรรมในกรณีที่สงสัยว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น การประมวลผลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปิดเผยหรือรายงานข้อมูลการกระทำความผิดหรือทุจริต หรือข้อมูลที่สงสัยว่าอาจจะเกิดการกระทำความผิดหรือทุจริต ข้อมูลข้อร้องเรียน หรือผลการจัดการข้อร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย
  • เพื่อให้บริษัท กลุ่มอลิอันซ์ หรือกลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา สามารถดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม ซึ่งรวมถึงการทดสอบระบบของบริษัท การจัดการฐานะทางการเงิน ความสามารถทางธุรกิจ การวางแผน การสื่อสาร การกำกับดูแลกิจการและการตรวจสอบภายใน การปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึง การบริหารจัดการข้อมูล การเก็บบันทึก ทำสำเนา หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดโดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การติดต่อสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร ข้อเสนอพิเศษเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ การให้สิทธิพิเศษหรือสิทธิประโยชน์ที่ท่านควรได้รับจากการเป็นลูกค้า การนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ของบริษัท หรือกลุ่มบริษัท อลิอันซ์ อยุธยา รวมถึงการแจ้งข้อมูลทางการตลาด หรือประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการขายกิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ ที่บริษัทหรือกลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา ได้จัดขึ้นเป็นครั้งคราว ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่าน โดยไม่ขัดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน

หากท่านไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารเพื่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ท่านสามารถแจ้งความประสงค์มายังบริษัทได้ที่ ศูนย์ดูแลลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยา ที่เบอร์ 1292 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ความยินยอม

  • บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายตามที่ได้รับความยินยอม เว้นแต่เป็นการประมวลผลข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามกฎหมาย
  • ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หรือไม่ได้รับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาประกันภัยหรือตามกฎหมาย บริษัทอาจจะปฏิเสธการดำเนินการได้
  • เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับกลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา หรือพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการติดต่อสื่อสาร นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ สิทธิประโยชน์ของบริษัท กลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
  • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ได้รับความยินยอมจากท่านเป็นครั้งคราว เว้นแต่วัตถุประสงค์นั้นบริษัทสามารถประมวลผลได้โดยชอบด้วยกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านต้องการเพิกถอนความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด ท่านสามารถแจ้งความประสงค์มายังบริษัทได้ที่ ศูนย์ดูแลลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยา ที่เบอร์ 1292 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ บริษัทอาจจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือสุขภาพของท่าน หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท

เมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์หรือรับบริการจากเรา ใบคำขอเอาประกันภัยที่ท่านกรอกหรือสัญญาประกันภัยที่ทำกับเราอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับวิธีการที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สิ่งเหล่านี้อาจจะนำไปใช้นอกเหนือจากวิธีการใช้ที่อธิบายไว้ในเอกสารนี้

ใครสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือเราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับใคร?

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยให้กับบุคคลที่สามที่มีฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้คำสั่งของเรา โดยการเปิดเผยจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเปิดเผยต่อบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้

  • หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล กลุ่มอลิอันซ์ กลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา บริษัทรับประกันอื่น บริษัทรับประกันภัยร่วม บริษัทรับประกันภัยต่อ ตัวแทน/นายหน้าประกันวินาศภัย นายจ้างผู้ถือกรมธรรม์ประกันกลุ่ม สมาคมวิชาชีพ หรือธนาคาร/สถาบันการเงิน
  • บุคคลภายนอกอื่นๆที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทหรือผู้ให้บริการ เช่น ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (cloud service provider) หรือผู้ให้บริการการจัดเก็บข้อมูล/เอกสาร ผู้ให้บริการ call center ผู้ให้บริการรับชำระเงิน ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปรษณีย์ ด้านการวิจัย/การวิเคราะห์ทางการตลาด การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เป็นต้น
  • ผู้ให้คำปรึกษาด้านเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญ ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี แพทย์ผู้ให้การรักษา โรงพยาบาล ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการด้านสินไหมทดแทน (TPA) ผู้ประเมินความเสียหาย  ศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อม
  • พันธมิตรทางธุรกิจตามที่ท่านอนุญาตให้ส่งข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดหรือขอรับข้อมูลข่าวสารใดๆไว้
  • ผู้เสนอซื้อธุรกิจ หรือผู้รับโอนธุรกิจ ในกรณีที่มีการพิจารณาหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท การขาย การร่วมทุน การมอบหมายงาน การถ่ายโอน หรือการจัดการอื่นๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนของธุรกิจของเรา สินทรัพย์หรือหุ้น รวมทั้งในกระบวนการล้มละลาย หรือการดำเนินการในลักษณะที่คล้ายกัน

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการประมวลผลที่ไหน

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจจะถูกประมวลผลทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรไทยโดยบุคคลหรือนิติบุคคลที่ถูกระบุไว้ในข้อ 4 ข้างต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางสัญญาที่เกี่ยวกับการรักษาความลับและความปลอดภัยซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ เราจะไม่ทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้ที่ไม่มีสิทธิในการประมวลผลข้อมูล

เมื่อใดก็ตามที่เราส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำการประมวลผลนอกราชอาณาจักรไทยหรือไปยังบริษัทในกลุ่มอลิอันซ์ เราจะปฏิบัติตาม “มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลในกลุ่มอลิอันซ์” ( BCRs) ซึ่งกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีนี้

ท่านสามารถเข้าถึงเอกสาร BCRs และ เอกสารรายชื่อของบริษัทในกลุ่มอลิอันซ์ที่ปฎิบัติตาม BCRs ได้ที่ www.allianz.com/en/privacy-statement.html#bindingcorporaterules

ในกรณีที่ BCRs ไม่ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด เราจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปนอกราชอาณาจักรไทยนั้นจะได้รับการคุ้มครองเหมือนกับการประมวลในราชอาณาจักรไทย เช่น การจัดให้มีข้อสัญญามาตรฐาน (Standard Contractual Clause) เป็นต้น

สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีอะไรบ้าง

ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับ ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

  • เข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
  • ยกเลิกหรือเพิกถอนการให้ความยินยอมได้ในทุกโอกาส สำหรับการประมวลผลข้อมูลภายใต้ความยินยอมของท่าน
  • ปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้นอีกต่อไป
  • ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านโต้แย้งถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้
  • คัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึง การประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบตรง
  • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตัวของท่านเอง หรือเพื่อผู้รับประกันภัยรายใหม่ของท่าน และ
  • ยื่นข้อร้องเรียนโดยตรงกับเรา หรือยื่นต่อหน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พบการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านอาจใช้สิทธิเหล่านี้โดยการตั้งค่าเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในระหว่างการสร้างบัญชีผู้ใช้ออนไลน์กับเรา และท่านสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้ได้ในภายหลังโดยเข้าสู่ระบบออนไลน์ หรือติดต่อเราตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 13. หากท่านต้องการความช่วยเหลือ 

ในกรณีที่ท่านขอยกเลิกหรือเพิกถอนความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไม่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรือระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ตามสัญญาประกันภัย หรือเกิดข้อจำกัดในการทำธุรกรรมหรือให้บริการบางประเภท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ท่านไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยหรือข้อตกลงอื่นใด หรือไม่ได้รับบริการบางประเภทจากบริษัท

บริษัทอาจจะปฏิเสธที่จะดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ในกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือบริษัทมีความชอบธรรมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิที่จะคิดค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินการตามคำร้องขอของท่านตามที่บริษัทเห็นสมควร

เราจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานเท่าใด

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จำเป็นเพื่อประมวลผลตามวัตถุประสงค์ข้างต้น และจะเก็บรักษาต่อเนื่องต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปีภายหลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทสิ้นสุดลง หรือวันที่อนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาด หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแต่กรณี อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวหากบริษัทเห็นว่าบริษัทยังมีความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลข้างต้น หรือเพื่อความจำเป็นอื่นใดที่บริษัทเห็นสมควร เช่น การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาประกันภัยของบริษัท เป็นต้น

ในกรณีที่บริษัทปฏิเสธการรับประกันภัยตามใบคำขอเอาประกันภัยของท่าน หรือในกรณีที่ท่านได้ขอเพิกถอนใบคำขอเอาประกันภัยนั้น หรือในกรณีอื่นใดตามที่กำหนดไว้ตามข้อกฏหมายหรือกฎระเบียบ บริษัทอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากนั้นเพื่อประโยชน์ของบริษัทเท่าที่จำเป็น หรือเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฏหมายบังคับ เช่น การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการพิจารณาคดี

มีการใช้ Cookies บนเว็บไซต์ของบริษัทหรือไม่

บริษัท ได้ใช้เทคโนโลยีในการติดตาม เช่น คุกกี้ (Cookies) หรือ Tags เพื่อรวบรวมข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้เยี่ยมชมใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทอย่างไร

เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่ช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เช่น ทำให้เราสามารถตรวจสอบว่ามีการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและของเราในอดีตหรือไม่ หรือใช้ในการระบุส่วนที่เป็นที่นิยมที่สุดของเว็บไซต์ของบริษัท

เมื่อท่านได้มีการบันทึกข้อมูลการตั้งค่าคุกกี้แล้ว การตั้งค่าดังกล่าวจะนำไปใช้กับการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทในอนาคต อย่างไรก็ตาม อาจจะมีเหตุผลทางด้านเทคนิคที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ซึ่งอาจมีผลต่อการตั้งค่าคุกกี้ของท่าน เช่น การที่ท่านตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านใหม่ การลบคุกกี้ หรือการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัทจากเบราว์เซอร์หรือเครื่องมืออื่น การตั้งค่าคุกกี้ที่ท่านทำไว้อาจสูญหายได้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ในบางประเทศอาจขอให้ท่านยืนยันการตั้งค่าคุกกี้เมื่อท่านได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทเป็นครั้งแรก ถ้าท่านอยู่ในประเทศที่กำหนดให้ถูกตั้งค่าคุกกี้ของท่านโดยอัตโนมัติ ท่านอาจจะได้รับการขอให้ตั้งค่าดังกล่าวอีกครั้งเมื่อมีการเข้าชมเว็บไซต์ในอนาคต

ในหลายๆ กรณี ท่านสามารถควบคุมเทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูลนี้โดยการใช้เบราว์เซอร์ของท่านเอง กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านได้มีการตั้งค่าตามที่ท่านต้องการว่าให้มีการเตือนหรือยอมรับเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลคุกกี้หรือไม่ ท่านสามารถหาความสามารถเฉพาะของเบราว์เซอร์ของท่านและคำแนะนำในวิธีการใช้งานดังกล่าวได้จากคู่มือหรือไฟล์ช่วยเหลือของเบราว์เซอร์ของท่าน

การปฏิเสธ การจำกัดการใช้งาน หรือการปิดใช้งานเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลคุกกี้ อาจทำให้ประสิทธิภาพของการให้บริการของเว็บไซต์ของบริษัทลดลง หรือบางส่วนของเว็บไซต์ของบริษัทอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

การปลั๊กอินของโซเชียลมีเดียบนเว็บไซต์ของบริษัทถูกใช้งานอย่างไร (สำหรับการใช้งานบนเว็บไซต์)

เว็บไซต์ของบริษัทใช้ปลั๊กอินของโซเชียลมีเดียดังต่อไปนี้ ("ปลั๊กอิน"):

Swipe to view more

ปลั๊กอินของโซเชียลมีเดีย

ดำเนินการโดย

คำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคล

ปุ่มแชร์ไปยังเฟซบุ๊ก

(Facebook)

Meta Platforms, Inc.

1 Hacker Way, Menlo Park, California, U.S.

https://facebook.com/privacy/policy

 

ปุ่มทวีต

(Tweet)

Twitter Inc.

795 Folsom St., Suite 600, San Francisco, CA 94107, USA

https://twitter.com/privacy

ปุ่มยูทูบ

(YouTube)

YouTube

901 Cherry Ave, San Bruno, CA 94066, United States

https://www.youtube.com/about/policies/

 

ปลั๊กอินทั้งหมดถูกระบุด้วยชื่อแบรนด์ของ ผู้ปฎิบัติการที่เกี่ยวข้องได้แก่ เฟซบุ๊ก (Facebook), ทวิตเตอร์ (Twitter), ยูทูบ(YouTube) หากท่านโต้ตอบกับปลั๊กอิน เช่น การกดวีดีโอบนยูทูป ข้อมูลจะถูกโอนโดยตรงจากเบราว์เซอร์ของท่านไปยังผู้ปฏิบัติการและถูกบันทึกโดยผู้ปฏิบัติการ

มาตรการความปลอดภัยอะไรที่เราได้ดำเนินการเพื่อปกป้องข้อมูลของท่านที่รวบรวมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท

เราได้ใช้มาตรการความปลอดภัยด้านเทคนิคและด้านองค์กรตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท จากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต การใช้ผิดประเภท สูญหาย หรือถูกทำลาย

เราจะจัดการกับข้อความอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปและกลับจากบริษัทอย่างไร

ข้อความอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่ส่งไป และกลับจากบริษัทได้รับการป้องกันโดย มาตรการความปลอดภัยด้านเทคนิค และด้านองค์กรที่เหมาะสม และอาจเข้าถึงได้เฉพาะในกรณีที่มีเหตุผล เป็นไปตามที่กฎหมายและข้อบังคับได้กำหนด โดยบุคคลในฝ่ายที่กำหนด (เช่น ฝ่ายกฎหมาย, ฝ่ายควบคุมการปฏิบัติตามกฏระเบียบ, ฝ่ายบริหารความเสี่ยง) ทุกขั้นตอนของกระบวนการ รวมถึงเกณฑ์การค้นหาที่ใช้ จะถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานการตรวจสอบ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกกำจัดหลังจากระยะเวลาการเก็บรักษาได้สิ้นสุดลง

อะไรที่ท่านควรพิจารณาเมื่อส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปจะไม่ถือว่าเป็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต (เช่น ส่งไปยัง หรือจากเว็บไซต์ของบริษัท หรือผ่านข้อความอิเล็กทรอนิกส์) รวมไปถึงการดาวน์โหลดข้อมูลหรือไฟล์จากเว็บไซต์ของบริษัท อาจถูกเข้าถึงได้โดยบุคคลที่สามที่ไม่ได้รับอนุญาต อาจนำไปสู่การเปิดเผย การเปลี่ยนแปลงเนื้อหา หรือความผิดพลาดทางเทคนิค ถึงแม้ว่าทั้งผู้ส่งและผู้รับจะอยู่ในประเทศเดียวกัน ข้อมูลที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ตอาจถูกส่งข้ามพรมแดนระหว่างประเทศและส่งต่อไปยังประเทศที่มีระดับการป้องกันข้อมูลต่ำกว่าในประเทศที่ท่านอาศัยอยู่

บริษัท ไม่สามารถรับผิดชอบหรือรับผิดสำหรับความปลอดภัยของข้อมูลของท่านขณะที่ถูกส่งผ่านอินเทอร์เน็ตถึงบริษัท เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่าน ท่านอาจเลือกวิธีการสื่อสารอื่นกับบริษัทตามที่ท่านเห็นว่าเหมาะสม

ท่านสามารถติดต่อเราผ่านช่องทางใด?

หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อเราได้ผ่านทางช่องทางโทรศัพท์ อีเมล หรือ ไปรษณีย์ ดังต่อไปนี้

บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย

  • 898 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ชั้น 1 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
  • ในวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 – 17.00 น. หรือ
  • ศูนย์ดูแลลูกค้าอลิอันซ์ อยุธยา โทร 1292 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ
    อีเมล: contact_aagi@allianz.co.th  สำหรับลูกค้าประกันวินาศภัย หรือ
    อีเมล: DSR@allianz.co.th สำหรับลูกค้าประกันสุขภาพ

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือต้องการยื่นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่ DPO_Report@allianz.co.th

เรามีความถี่ในการปรับปรุงคำชี้แจงข้อมูลส่วนบุคคลแค่ไหน?

เราทำการทบทวนคำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นประจำ เราจะประกาศฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้ที่ https://www.allianz.co.th/th_TH/privacy-for-aagi/privacy-notice.html

บริษัทอาจทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เราจะประกาศการเปลี่ยนแปลงแก้ไขในเว็บไซต์ด้านบน หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อท่านอย่างมีนัยสำคัญ เราอาจจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนั้นผ่านช่องทางการติดต่อที่ท่านกำหนดไว้ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะบังคับใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยภายหลังจากที่ประกาศในเว็บไซต์ของเรา

คำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้จัดทำขึ้นเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในกรณีที่ข้อความระหว่าง 2 ภาษานั้นขัดหรือแย้งกัน ให้ใช้ภาษาไทยเป็นสำคัญ

คำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ปรับปรุงเมื่อ 24 ตุลาคม 2566